ประวัติศิลปะการต่อสู้แบบผสม

ศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ Mixed Martial Art หรือที่พูดกันสั้นๆว่า MMA เป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

วันนี้เรามาดูประวัิติของกีฬาชนิดนี้กัน ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

MMA คือ กีฬาต่อสู้ที่ฮิตถล่มทลายอยู่ในตอนนี้ ความนิยมอย่างรวดเร็วทำให้มันได้ขึ้นปกหนังสือกีฬาหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็น Sport Illustrated , ESPN The Magazine และเล่มอื่นๆทั่วโลก

MMA ปรากฏในเว็บไซต์กว่า 3 ล้านแห่งทั่วโลก ทั้งยังเป็นรายการโทรทัศน์แบบ pay-per-view ด้วย

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแบบผสมผสาน ได้เริ่มมีการวางกฎและจัดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ประเทศกรีก เมื่อประมาณ 648 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งศิลปะการต่อสู้ที่นักรบในสมัยนั้นใช้ต่อสู้กันก็คือ แพนแครชั่นกรีก (Greek Pankration) และสิ่งที่เรากำลังสนใจกันอยู่ก็ไม่ใช่ แพนแครชั่น หรือ แกรนดิเอเตอร์ แต่อย่างใด เพราะในยุคนี้ถ้าเราพูดถึงเกมการต่อสู้ที่ดุเดือดเร้าใจเราต้องนึกถึง MMA สมัยใหม่ และสังเวียนรบแปดเหลี่ยม ของรายการ UFC – Ultimate Fighting Championship ในประเทศสหรัฐอเมริกา

MMA คือประการต่อสู้ที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน อย่างเช่น มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แชมโบ้ บราซิเลี่ยน จูจิสสึ มีทั้งการแตะการต่อย และการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานครั้งที่ถ่ายทอดผ่านทีวีคือรายการ Ultimate Fighting Championship (UFC) ครั้งที่ 1ในปี1993 ในตอนนั้นยังไม่กฏกติกาอะไรมากนัก และในต่อมาได้การปรับเปลี่ยนกฏกติกาต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการกีฬา ฮอยส์เกรซี่ ซึ่งเป็นแชมป์แรกของรายการ UFC เป็นสู้บราซิเลี่ยน จูจิสสึ (BJJ)และ เป็นผู้นำวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานให้ทั่วโลกได้รู้ว่าคนที่ตัวเล็ก กว่า แรงน้อยกว่าแต่สามารถที่จะเอาชนะคนซึ่งตัวใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าได้

จากที่เคยเป็นกีฬาที่ไม่มีกฎเกณฑ์และถูกพิจารณาว่าอันตราย ก็เริ่มมีการวางมาตรฐาน โดยท่าเสี่ยงอันตรายทั้งหลายได้รับการบัญญัติว่าผิดกฎหมาย ความจริงกีฬาประเภทนี้ปลอดภัยกว่าฟุตบอลและชกมวย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ผู้เล่นเกิดอุบัติเหตุถึงชีวิต นั่นคือในปี 1998 ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง

ยุคแรก

กฏติกาของศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานในตอนยุคแรกๆ ใน UFC ครั้งช่วงแรก รูปการต่อสู้ที่ไม่ตายตัวไม่มีกฏกติกา แต่มีการห้ามจิ้มตา และห้ามแตะเป้าในการแข่งเป็นแพ้คัดออกใครชนะเข้ารอบแข่งขันวันเดียวจบ แพ้ชนะอยู่ที่การน็อกคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ และกรรมการในเวทีสั่งยุตติการแข่ง

ยุคปัจุบัน

กติกาการแข่งขันได้มีการพัฒนาขึ้น มีแข่งขันตามน้ำหนัก ผู้เข้าแข่งขันต้องมีการใส่ถุงมือนวม ใส่ฟันยาง มีการพักยก แพทย์สนามสั่งยุตติ แบบการแข่งขันมวย ซึ่งการแข่งขันในแต่งละรายการต่างๆ กฎกติกาจะคล้ายๆกัน บางที่สามารถให้กระทืบคู่ต่อสูได้ เช่น รายการ Pride Fighting Championship ของประเทศญี่ปุ่น

MMA ในเมืองไทย ในเมืองไทยเริ่มมีการแข่งขัน MMA หลายๆรายการเช่น ไทยแลนด์วาเลทูโด , ศึกนักสู้ , Tiger Muay Thai BBQ Beatdown , เวทีมวยบ้านกลาง เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org