| |

ประวัติ Conor McGregor ยอดนักชกแชมป์ 2 รุ่นพร้อมกันคนแรกของ UFC

ประวัติ Conor McGregor ยอดนักชกแชมป์ 2 รุ่น พร้อมกันคนแรกของ UFC

Conor Mcgergor Success
Conor McGregor
ชื่อนี้ท่านผู้อ่านที่ไม่ได้อยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (Mixed Martial Art) อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักว่าเป็นใครกันแน่ แต่ถ้าเป็นแฟนรายการกีฬาต่อสู้แบบผสมผสานแล้ว เชื่อเลยว่าไม่มีใครจะไม่รู้จัก ยอดนักชก MMA ชาวไอร์แลนด์ ที่ในปัจจุบันประสบความสำเร็จหลายด้านในอาชีพ โดยเป็นคนแรกในรายการ UFC ที่เป็นแชมป์พร้อมกันทั้ง 2 รุ่นนั่นคือ แชมป์รุ่นเฟเธอเวท (ได้จาก Jose Aldo) และ แชมป์รุ่นไลท์เวท (ได้จาก Eddie Alvarez) และ ทำรายได้อย่างมากมายในปีที่ผ่านมา จนติดอันดับ 85 ของนักกีฬาที่ทำรายได้มากที่สุดในปี 2016 จากการจัดอันดับของ Forbes โดยการสู้เพียงแค่ 3 ไฟท์เท่านั้น (UFC 196, 202 and 205)

ซึ่งในลิสต์ 100 นักกีฬานั้น มีรายชื่อนักมวยเพียง 4 รายนั่นคือ

1.Floyd Mayweather อันดับ 16 (ฺBoxing)
2.Manny Pacquiao อันดับ 63 (ฺBoxing)
3.Conor Mcgregor อันดับ 85 (MMA)
4.Canelo Alvarez อันดับ 92 (ฺBoxing)

วันนี้เรามารู้จักประวัติ และ เรื่องราวน่าสนใจของนักสู้ MMA คนนี้กัน

วัยเด็กของ Conor Mcgregor

conor mcgregor 1
zuffa

Conor McGregor ชื่อเต็ม Conor Anthony McGregor เกิดเมื่อ 14 กรกฏาคม 1988 (ปัจจุบันอายุ 28 ปี) ที่เมือง Dublin ประเทศ ไอร์แลนด์ โดยวัยเด็กนั้นชอบที่จะเล่นฟุตบอล โดยเคยเล่นฟุตบอลให้กับ Lourdes Celtic Football Club ต่อมาก็เริ่มฝึกฝน คิกบ็อกซิ่ง และ มวยสากล ตอนอายุ 12 โดยฝึกกับ Phil Sutcliffe (อดีตนักกีฬาโอลิมปิก) ซึ่งก็ทำได้ดีได้แชมป์ All-Ireland boxing Champion ในรุ่นเยาวชน ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่เมือง Lucan และ ที่นั่นเค้าได้พบกับ Tom Egan ซึ่งต่อมาก็เป็นนักสู้ UFC และ ได้เริ่มฝึกซ้อม MMA ด้วยกัน และ คอนอร์ แม็คเกรกอร์ ก็ได้ลงแข่ง MMA สมัครเล่นครั้งแรกในรายการ Ring of Truth โดนเอาชนะน็อค Kieran Campbell คู่ต่อสู้ไปได้ในยกแรก

https://youtu.be/eXR2BtYfUKQ

หลังจากที่สามารถเอาชนะในการแข่งขันแบบสมัครเล่นได้แล้ว Conor McGergor ก็เริ่มเข้าสู่วงการแข่งขัน MMA ระดับอาชีพ โดยได้ฝึกซ้อมกับ Straight Blast Gym ภายใต้การฝึกซ้อมจาก นักบราซิลเลี่ยน ยูยิตสู สายดำ John Kavanagh และได้ฝึกการต่อสู้อีกหลายอย่างทั้ง เทควันโด / มวยปล้ำ / คาโปเอล่า เป็นต้น โดย ปัจจุบัน คอนอร์ แม็คเกรกอร์ ได้สายน้ำตาลใน BJJ

เส้นทางอาชีพนัก MMA ของ คอนอร์ แม็คเกรกอร์

zuffa
zuffa

วันที่ 9 มีนาคม 2008 คอนอร์ แม็คเกรกอร์ ได้เข้าร่วมแข่งขัน เปิดตัวในระดับอาชีพ ในรายการ Cage of Truth 2 กับ Gary Morris ในรุ่นไลท์เวท และ ก็เอาชนะ TKO ไปได้ในยกที่ 2 / หลังจากนั้นก็ยังเก็บชัยชนะต่อเนื่องในไฟท์ที่สองกับ Mo Taylor ต่อมาได้ลองย้ายรุ่นลงมาสู้ในรุ่น เฟเธอเวท และ ได้รับความพ่ายแพ้ครั้งแรกจากการโดนซับมิชชั่นโดย Artemij Sitenkov แต่ก็กลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้งกับ Stephen Bailey,Connor Dillon จากนั้นจึงกลับไปสู้ในรุ่นไลท์เวทพบกับความพ่ายแพ้ครั้งที่สองเมื่อกับ Joseph Duffy โดยแพ้ซับมิชชั่นอีกครั้ง แต่หลังจากนั้น Conor Mcgregor ก็เก็บชัยชนะอีก 8 ไฟท์รวด รวมทั้งยังคว้าแชมป์รายการ CWFC (Cage Warriors Fighting Championship) ทั้งในรุ่น เฟเธอเวท และ ไลท์เวท ทำสถิติเป็นนักยุโรปคนแรกที่คว้าเข็มขัด 2 รุ่นในเวลาเดียวกัน และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 ดาน่า ไวท์ ได้เดินทางมายัง ไอร์แลนด์ และ ได้เซ็นสัญญากับ คอนอร์ แม็คเกรกอร์ เพื่อให้เข้าสู้ในรายการ UFC (Ultimate Fighting Championship) โดยเป็นนักสู้ ไอริช คนที่ 2 ที่ได้สู้ในศึก UFC

MMA-Aldo-vs-McGregor
zuffa

ศึกแรกของ Conor Mcgregor ใน UFC นั้นได้พบกับ Marcus Brimage ซึ่ง แม็คเกอกอร์ ก็ทำผลงานได้ดีเอาชนะ KO และ ยังคว้ารางวัล “Knockout of the Night” ไปได้ จากนั้นก็มาพบกับ Max Holloway ซึ่งก็เอาชนะคะแนนไปได้ แต่ก็บาดเจ็บจนต้องหยุดพักการแข่งขันไปถึง 10 เดือน และ หลังจากกลับมาแข่งอีกครั้งในปี 2014 ก็เอาชนะติดต่อกันทั้ง Diego Brandao , Dustin Poirier , Dennis Siver และ มาคว้าแชมป์เฉพาะกาลรุ่น เฟเธอเวท ในการแข่งขันกับ Chad Mendes ใน UFC 189 และ คว้าแชมป์เส้นจริงจาก Jose Aldo ในเวลาเพียงแค่ 13 วิ ซึ่งเป็นสถิติการแข่งขันที่ไวที่สุดในการชิงแชมป์ และ ยังทำสถิติได้ “Performance of theNight” ถึง 5 ครั้งติดต่อกัน

https://www.youtube.com/watch?v=PXuHTPGiumg

หลังจากสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดของรุ่นเฟเธอเวท (145 ปอนด์) ใน UFC แล้ว แม็คเกรกอร์ ก็ต้องการที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองอีกครั้งโดยการขึ้นไปชิงแชมป์ในรุ่น ไลท์เวท (155 ปอนด์) เพื่อการเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ UFC 2 รุ่นในเวลาเดียวกันเป็นคนแรก ซึ่ง ณ ขณะนั้น Rafael dos Anjos เป็นเจ้าของเข็มขัดอยู่ ซึ่งก็มีการตกลงกันว่าจะแข่งขันในรายการ UFC 196 วันที่ 5 มีนาคม 2016 แต่ทางแชมป์ ราฟาเอล ดอส อันโจส ก็ต้องถอนตัวเสียก่อนเพราะบาดเจ็บที่เท้า ซึ่งทาง UFC ก็ได้เปลี่ยนเอา Nate Diaz มาต่อยกับ แม็คเกรกอร์ แทน แต่สู้กันในรุ่น เวลเตอร์เวท (170 ปอนด์) แบบไม่มีเข็มขัดเป็นเดิมพัน ซึ่ง Nate Diaz ก็ได้ยัดเยียดความปราชัยครั้งแรกในสังเวียน UFC ให้กับ Mcgregor ด้วยการจับซับมิชชั่น ในยกที่ 2 ซึ่งการชกในครั้งนี้ก็ได้รางวัล Fight of the night ด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=hMvoBc1OB8A

หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ Nate Diaz ทาง Conor Mcgregor ก็กลับไปซุ่มฝึกซ้อมและกลับมา Rematch กับ เนท ดิแอส ในรายการ UFC 202 (170 ปอนด์) โดยครั้งนี้ทั้งคู่ผลัดกันชกอย่างดุเดือด และ สุดท้ายเป็น คอนอร์ แม็คเกรกอร์ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ (48-47 , 48-47 , 48-47) จากการแข่งขันทั้งหมด 5 ยก ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ แม็คเกรกอร์ ได้ทำลายสถิติเป็นนักกีฬาที่ได้เงินค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ UFC นั่นคือ 3 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 105,000,000 บาท) และ นอกจากนั้นยังทำลายสถิติมียอด PPV (pay-per-view) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ UFC นั่นคือมีผุ้ชมถึง 1,650,000 เลยทีเดียว รวมถึงยังได้รางวัล “Fight of the Night” ต่อกันเป็นไฟท์ที่ 2 อีกด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=nMurWiBq7As

นักสู้คนแรกที่ทำประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ 2 รุ่นในเวลาเดียวกันของ UFC

หลังจากล้างตาเอาชนะ Nate Diaz สำเร็จ Conor Mcgregor ก็กลับมาสู่เส้นทางคว้าเข็มขัดเส้นที่ 2 อีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ผู้ถือเข็มขัดรุ่นไลท์เวทนั้นได้เปลี่ยนมือจาก Rafael dos Anjos ไปสู่ Eddie Alvarez และในเวลานั้น Eddie Alvarez ที่เพิ่งกระชากเข็มขัดจาก ราฟาเอล ดอส อันโจส ก็ได้ทำการตกลงที่ป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับนักสู้ชื่ออ่านยากชาวรัสเซีย Khabib Nurmagomedov แต่ก็เกิดการขัดข้องเรื่องข้อตกลงเสียก่อน จึงได้เลื่อนการแข่งขันไปเป็น UFC 206 แต่ Conor Mcgregor ซึ่งมีคิวชิงตำแหน่งตั้งแต่ UFC 196 ได้เข้ามาแทรกเสียก่อน ทำให้ศึกชิงตำแหน่งระหว่าง Conor Mcgregor ปะทะ Eddie Alvarez ครั้งนี้เกิดขึ้นใน UFC 205 ที่ นิวยอร์ค ซิตี้ ซึ่งเพิ่งยกเลิกการแบนการแข่งขัน MMA ไป จึงเป็นการแข่ง UFC ครั้งแรกใน New York City และ Fight Card ครั้งนี้ ดาน่า ไวท์ ก็พูดว่ามันคือ Fight Card ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ UFC เลยทีเดียว

UFC-205-Alvarez-v-McGregor
Zuffa

วันที่ 12 พศจิกายน 2016 การแข่งขันระหว่าง UFC ครั้งที่ 205 ระหว่างผู้ครองเข็มขัดแชมป์ทั้ง 2 คน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ของ UFC ที่จัดขึ้น โดยครั้งแรกเป็น UFC 94 ซึ่งเป็นการต่อสู้กันระหว่าง Georges St-Pierre แชมป์รุ่น เวลเตอร์เวท ป้องกันตำแหน่งกับ B.J. Penn แชมป์รุ่นไลท์เวท | และในที่สุด Conor Mcgregor ซึ่งมีโอกาสปล่อยหมัดเด็ดทำให้ Eddie Alvarez ลงไปนั่งบนพื้นตั้งแต่ยกแรก ก็ทำได้สำเร็จโดยสามารถเอาชนะ Eddie Alvarez ไปด้วยหมัดชุดต่อเนื่อง 4 หมัดติดและลงไปเก็บงานบนพื้นได้อย่างสวยงาม ในยกที่ 2 คว้าแชมป์ 2 รุ่นมาได้เป็นคนแรก

https://youtu.be/DHpoNyGMoDQ

โดยการแข่งขันครั้งนี้ก็สร้างปรากฏการณ์ที่ทำลายสถิติหลายเรื่องเช่น
1.ได้รับยอดเงินผ่านประตูสูงถึง 17,700,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 619,500,000 บาท) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ UFC
2.มีผู้ชมเข้ามาชมในสนาม Madison Square Garden ถึง 20,427 คน ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในการจัดอีเวนท์ของที่นี่เลยทีเดียว
3.สารคดีโปรโมทการแข่งขันของคู่นี้ มียอดผู้ชมสูงถึง 2.4 พันล้าน บน Fox ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ UFC
4.Reebok จ่ายเงินสูงที่สุดสำหรับนักกีฬาในอีเวนท์นี้ โดยรวมกันถึง 392,500 ดอลล่าร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 13,737,500 บาท)
5.Conor McGregor กลายเป็นนักสู้คนแรกของ UFC ที่เป็นแชมป์ 2 รุ่นพร้อมกัน

ซึ่งหลังจากการแข่งขันครั้งนี้ Conor McGregor ก็ได้ขอพักการแข่งขันไปอย่างน้อย 9 เดือน เพื่อที่จะไปดูแล Dee Devlin ภรรยาสุดที่รักของตัวเองที่คอยเคียงข้างเค้ามาตลอดตั้งแต่ยังไม่เป็นนักสู้ชื่อดัง ที่กำลังตั้งท้องลูกของทั้งคู่นั่นเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้ UFC ได้ทำการปลดเข็มขัดรุ่น เฟเธอเวท ของ แม็คเกรกอร์ (ไม่เคยได้ป้องกันตำแหน่ง) คืนให้กับแชมป์เฉพาะกาลนั่นคือ Jose Aldo / ปัจจุบันแชมป์เฉพาะกาลรุ่นเฟเธอเวทคือ Max Holloway

Dee Devlin
Zuffa

แต่แม้จะอยู่ในช่วงการพักการแข่งขันแต่ คอนอร์ แม็คเกรกอร์ ก็ไม่วายจะมีข่าวเมื่อมีการพาดพิงกันระหว่าง ยอดนักมวยสากลแห่งยุค Floyd Mayweather ที่รีไทร์ไปแล้วกับ Conor McGregor ที่คนก็แอบตั้งฉายาว่าเป็น ฟลอย์ เมเวเธอร์ แห่งวงการ MMA เช่นกัน เนื่องจากทักษะฝีปาก และ การทำเงิน รวมถึงความเกรียน ซึ่งก็มีการตอบโต้กันผ่านสื่ออยู่เรื่อยๆครับ ซึ่งแอดมินว่าถ้าเกิดศึกนี้ขึ้นมาจริงๆ ก็น่าสนใจครับ แต่ที่แน่ๆ ทำเงิน กันพุงกางแน่นอนครับ ^_^

Zuffa
Zuffa

เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับประวัติของนักสู้จอมเกรียนอย่าง Conor “The Notorious” McGregor จอมเกรียนแห่งวงการ MMA ถ้าหากชอบใจแล้วละก็ ฝากกดแชร์บทความให้เพื่อนๆที่สนใจอ่านกันด้วยนะครับ จะได้เป็นกำลังใจให้แอดมินเขียนบทความนักสู้ท่านอื่นๆต่อไปครับ

ธีรพรรค แซ่แต้ – Thaimmaclub Fanpage

Similar Posts

ใส่ความเห็น