| | | | |

เบื้องหลัง บัวขาว ไม่ชกต่อ K-1 World Max Final Thailand

K-1 World Max Final Thailand Buakaw Vs Kehl

คืนวันที่ 11 ตุลาคม 2557 แอดมินไปท่องเที่ยวที่เกาะล้าน พร้อมรอดูการแข่งขันรายการ K-1 World Max Final ที่จัดขึ้นที่พัทยา ประเทศไทย เป็นการจัดแข่งขัน K-1 ครั้งแรกที่เมืองไทยครับ และ การแข่งครั้งนี้ยังเป็นการแข่งเพื่อชิงแชมป์ K-1 สมัยที่ 3 ของ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทยที่ครองแชมป์รายการ K-1 มาแล้วสองครั้งนั่นคือเมื่อ ปี 2004 และ ปี 2006 ซึ่งถ้าทำสำเร็จก็จะเป็นคนแรกของโลกที่เป็นแชมป์ K-1 ถึง 3 สมัย

แต่ก่อนจะเกิดการแข่งขันในรอบนี้นั้น แอดมินก็รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับ การออกมาให้ข่าวต่างๆของทาง บัวขาว บัญชาเมฆ เกี่ยวกับเรื่องการจัดการแข่งขัน K-1 รอบนี้ ซึ่งถ้าคนที่ไม่ทราบมาก่อนนะครับ K-1 ในปัจจุบันนั้นไม่ได้เป็นลิขสิทธิ์ของทางญี่ปุ่นจัดเหมือนสมัยก่อนแล้ว เนื่องจากข้อหาทางด้านการเงินนะครับ โดยลิขสิทธิ์นั้นก็เปลี่ยนมาเป็นของผู้อื่น และ การจัดการแข่งขันนั้นก็เปลี่ยนไป สมัยก่อนนั้นจะจัดการแข่งขันแบบมวยรอบวันเดียวจบ แต่ครั้งนี้เป็นการแข่งแบบทีละเวที จนมาถึงคู่ชิง คือ บัวขาว และ เคห์ล ที่เมืองไทย ลองดูวีดีโอการให้สัมภาษณ์ก่อนการแข่งขัน ของบัวขาว เรื่องการจัดมวย K-1 ที่ไม่มีมาตรฐานครับ

บัวขาว บัญชาเมฆ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์

ก่อนหน้าการชกเพียงไม่กี่วัน บัวขาว บัญชาเมฆ ก็ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจเมื่อทราบว่าทาง Facebook ของผู้จัดการแข่งขัน K-1 นั้นมีการแนะนำเวปไซต์การพนันออนไลน์เวปหนึ่งซึ่งมีการเปิดรับพนัน ในคู่ของตนเอง ซึ่งก็ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าการแข่งขันนั้น จะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ อีกทั้งเพื่อป้องกันการกล่าวหาว่า บัวขาว นั้นมีส่วนร่วมในการจัดการพนันครั้งนี้ และ ป้องกันในข้อครหาว่ามีการล้มมวยกันเกิดขึ้น

ซึ่งจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นก็ทำให้แอดมินเอง รู้สึกว่างานนี้คงจะมีเบื้องลึก เบื้องหลังเป็นแน่ ตอนแรกยังคิดว่า บัวขาว อาจจะไม่ขึ้นชกด้วยซ้ำไป แต่หลังจากติดตามชมรายการ K-1 ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม ครึ่ง ก็เห็นการแข่งขัน และ บัวขาวที่มาปรากฏตัวตั้งแต่การแนะนำนักมวย แต่รอบนี้มีนักชก K-1 ที่มีชื่ออีก 2 คนได้ถอนตัวออกไป นั่นคือ Mike Zambidis และ Andy Souwer สำหรับแอดมิน ได้ชมการแข่งของบัวขาวก็พอใจแล้วจึงไม่ได้สนใจมาก การแข่งขันก็ดำเนินไปเรื่อยๆจนถึงคู่ชิงแชมป์ บัวขาว ขึ้นสังเวียนเจอกับ เอนริโก้ เคห์ล ซึ่งรอบนี้ บัวขาว ดูจะไม่เน้นการทำแต้มตามสไตล์การชกแบบเดิม ซึ่งมีการป้องกันเหนียวแน่น และ ออกอาวุธจัดแจ้ง แต่กลับเดินเข้าลุยและเน้นทุ่มทำให้คู่ต่อสู้เสียหลัก แต่ก็มีการแลกอาวุธกันดุเดือด จนมาถึงยกที่ 3 บัวขาวเดินลุยออกอาวุธอย่างเต็มที่เหมือนจะเป็นการทิ้งทวน และ หลังจากจบการแข่งขัน 3 ยก ผู้ประกาศก็แจ้งว่า คะแนนนั้นออกมาเสมอกันต้องสู้กันต่อในยกที่ 4 แต่บัวขาว นั้นหลังจากชก 3 ยกเสร็จ ก็เดินทางกลับทันที ไม่แม้แต่จะรอการประกาศผลคะแนน แต่อย่างใด และ ทำให้ เคห์ล คว้าตำแหน่งแชมป์ K-1 ไปครองเป็นครั้งแรก ลองดูวีดีโอการแข่งขัน ระหว่าง คู่ บัวขาว บัญชาเมฆ และ เอนริโก้ เคห์ล กันครับ

ซึ่งจากผลการแข่งขันแบบนี้ก็ทำให้เกิดคำถามตามมาทันที แอดมินยังแอบอุทาน WTF ออกมา เกิดอะไรขึ้น ซึ่งความจริงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีนักสู้ Walk Out ไม่รับผลการตัดสินของ K-1 นั่นคือ Jerome Le Banner นักชก K-1 ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งก็ได้เคยทำในรอบ 16 คนของ K-1 2010 ครับ หลังจากการตัดสินเป็นเสมอและให้แข่งต่ออีกครั้งในยกที่ 4

ซึ่งเพียงไม่นาน เฟจแพจ บัญชาเมฆ ก็โพสรูปบัวขาวขึ้นพร้อมกับคำที่บอกว่า “ขอโทษที่ทำให้แฟนๆงง เดี๋ยวคงเข้าใจผมครับ” แอดมินก็รอติดตามข้อมูล ต่อมาทางแฟนเพจบัญชาเมฆ ก็โพสขึ้นความอีกครั้งว่า “ชื่อเสียง เงินทอง ได้มาแค่ชั่วคราว ชั่วครู่ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความถูกต้อง ติดตัวไปจนวันตาย” เวปบอร์ดและโซเชี่ยว เน็ตเวิร์คต่างๆ ก็มีคนออกมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก และ ข้อมูลบางส่วนที่มีการวิเคราะห์กันออกมาก็สรุปได้ตามนี้ครับ

1.ก่อนหน้าการแข่งขันครั้งนี้ นั้นมีการออกกฏกติกาที่เปลี่ยนกันชนิดบอกก่อนล่วงหน้าเพียงไม่นาน ว่าห้ามจับขาทุ่ม (เควันเคยทำเช่นนี้มาแล้วสมัยปี 2005 โดยการเปลี่ยนกฏห้ามคีบคอตีเข่าต่อเนื่อง โดยแจ้งก่อนแข่งเพียง 1 วัน) และ รวมถึงห้ามนักกีฬานำเอาอาหารและเครื่องดื่มมากินเอง

2.การแข่งขันครั้งนี้มีการล็อคผลแพ้ – ชนะ ไว้เรียบร้อยแล้ว สาเหตุจากการพนันออนไลน์นั้น มีอัตราการต่อรองข้างบัวขาวค่อนข้างมาก และ ในเงื่อนไขนั้นคือ บัวขาว จะชนะภายใน 3 ยก ซึ่งเมื่อการแข่งขันออกมาเสมอ ก็เท่ากับเจ้ามือกินเรียบ ซึ่ง K-1 เองก็มีคอนเน็คชั่นกับทางเวปไซต์พนัน รวมถึง บัวขาว เองก็เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าหากผลที่ออกมาเป็นเสมอ และ มีการชกยกที่ 4 ตนเองจะไม่ขึ้นชก เพราะเกี่ยวกับการพนัน

3.เรื่องสัญญา ซึ่งทางบัวขาวนั้นไม่ต่อสัญญา กับทาง เควัน ซึ่งก็อาจจะทำให้ต้องมีการปั้นดาวรุ่งดวงใหม่ไว้เป็นแม่เหล็ก และ แน่นอน คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เอนริโก เคห์ล

4.บัวขาวมาขึ้นชก เพราะติดข้อกฏหมายเรื่องสัญญา และ พยายามเต็มที่ ที่จะน็อคคู่ต่อสู้ให้ได้ และ เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จ ก็รู้ผลล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงลงจากเวทีทันที ที่ชกเสร็จ เพราะถือว่าได้ขึ้นมาชกตามสัญญาแล้ว

ซึ่งวันนี้ทางทีมงาน K-1 ก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ว่าจะฟ้องร้องทางบัวขาว ว่าไม่ชกให้ครบตามสัญญา และ ต่อจากนี้เราคงไม่ได้เห็น บัวขาว ในรายการ K-1 อีกต่อไปครับ ก็คงต้องติดตามข้อมูลกันต่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้นะครับ แต่ที่แน่ๆทีมงาน K-1 โดนจวกเละ เกี่ยวกับการจัดการแข่งครั้งนี้ครับ

Similar Posts

ใส่ความเห็น